
ทำไมการดูแลขนสุนัขถึงสำคัญ
ขนสุนัขไม่ได้มีไว้เพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่ปกป้องผิวหนังจากสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด รังสี UV ความร้อน ฝุ่น หรือแมลงที่อาจก่อให้เกิดโรคผิวหนัง หากเจ้าของละเลยการดูแลขน อาจทำให้น้องหมามีกลิ่นตัว ขนพันกัน หรือเกิดปัญหาผิวหนังอักเสบได้ง่าย การแปรงขน อาบน้ำ และตัดขนอย่างเหมาะสมจึงถือเป็นการดูแลสุขภาพที่สำคัญพอ ๆ กับการให้อาหารที่มีประโยชน์
ยิ่งไปกว่านั้น การดูแลขนยังเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของกับสุนัข การแปรงขนเบา ๆ หรือการลูบไล้ไปตามตัวขณะอาบน้ำ เป็นช่วงเวลาที่ช่วยให้น้องหมารู้สึกผ่อนคลายและเชื่อมั่นในตัวเจ้าของมากขึ้น
ความแตกต่างระหว่างสุนัขพันธุ์เล็กและพันธุ์ใหญ่
สุนัขพันธุ์เล็กและพันธุ์ใหญ่มีลักษณะขนและพฤติกรรมที่ต่างกัน ทำให้รูปแบบการดูแลขนไม่เหมือนกัน การเข้าใจลักษณะเหล่านี้จะช่วยให้เจ้าของสามารถปรับวิธีการดูแลได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับน้องหมาแต่ละตัว
- สุนัขพันธุ์เล็ก เช่น ชิวาวา พุดเดิ้ลทอย และปอมเมอเรเนียน มักมีขนละเอียดและเส้นเล็ก ซึ่งมีแนวโน้มที่จะพันกันได้ง่ายโดยเฉพาะในบริเวณคอ รักแร้ และหู หากไม่แปรงขนเป็นประจำ ขนจะจับตัวเป็นก้อน ทำให้ผิวหนังไม่สามารถหายใจได้สะดวก และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อรา
- สุนัขพันธุ์ใหญ่ เช่น โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ ไซบีเรียน ฮัสกี้ หรือเยอรมันเชพเพิร์ด ส่วนใหญ่มีขนยาวและหนา บางพันธุ์มีชั้นขนสองชั้น (double coat) ซึ่งช่วยกันความร้อนและความหนาวเย็น การดูแลขนของพันธุ์ใหญ่จึงต้องใช้เวลาและความละเอียดมากกว่า รวมถึงต้องมีอุปกรณ์เสริม เช่น หวีสำหรับขนหนา และไดร์เป่าขนกำลังแรง
การตัดขน
พันธุ์เล็ก:
สุนัขพันธุ์เล็กควรได้รับการตัดแต่งขนรอบดวงตา หู และอุ้งเท้าอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากขนที่ยาวเกินไปอาจบังสายตาหรือสะสมสิ่งสกปรกได้ง่าย ขนที่อุ้งเท้าหากยาวเกินไปก็อาจทำให้ลื่นบนพื้นเรียบ เกิดอันตรายได้ การตัดแต่งเล็กน้อยทุก 4–6 สัปดาห์จึงเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างต่อเนื่อง
พันธุ์ใหญ่:
สุนัขพันธุ์ใหญ่มักต้องการการตัดขนเพื่อช่วยให้การระบายอากาศดีขึ้น โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนชื้นแบบประเทศไทย การตัดขนยังช่วยลดการสะสมของฝุ่นและสิ่งสกปรกที่มักติดตามขนหนา ๆ ของพวกเขา เจ้าของควรตัดขนรอบหู ขา และช่วงอกเป็นระยะ เพื่อให้สุนัขรู้สึกโปร่งและสบายตัวมากขึ้น
การอาบน้ำ
พันธุ์เล็ก:
การอาบน้ำสุนัขพันธุ์เล็กควรใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ เพราะร่างกายมีขนาดเล็กและบอบบาง ควรใช้น้ำอุ่นเพื่อไม่ให้ร่างกายเกิดความหนาวเย็น หลีกเลี่ยงไม่ให้น้ำเข้าหู เพราะอาจก่อให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย การอาบน้ำทุก 2–3 สัปดาห์ถือว่าเหมาะสม โดยไม่ควรอาบบ่อยเกินไปเพราะจะทำให้ผิวแห้ง
พันธุ์ใหญ่:
สุนัขพันธุ์ใหญ่ต้องการพื้นที่อาบน้ำมากกว่า เช่น อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ หรือพื้นที่นอกบ้านที่สะดวกต่อการล้างตัว ขนที่หนามักใช้เวลานานในการซับน้ำและทำให้แห้ง จึงควรใช้ไดร์เป่าขนกำลังแรงเพื่อช่วยลดความชื้นที่อาจสะสมและก่อให้เกิดเชื้อราได้ การอาบน้ำทุก 4–6 สัปดาห์ก็เพียงพอ เว้นแต่จะสกปรกจากการวิ่งเล่นกลางแจ้ง
เคล็ดลับการดูแลขนให้เงางาม
การดูแลขนไม่ได้หยุดแค่การอาบน้ำและตัดขน แต่การบำรุงให้ขนสวยเงางามก็สำคัญไม่แพ้กัน
- ควรแปรงขนสุนัขอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2–3 ครั้ง โดยใช้หวีที่เหมาะสมกับลักษณะขน
- เลือกแชมพูสูตรอ่อนโยนที่เหมาะกับสภาพผิวและขนของสุนัข หลีกเลี่ยงแชมพูของคนที่มีค่า pH ไม่เหมาะกับสัตว์
- อาหารก็มีผลต่อสุขภาพขน ควรให้อาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6 ซึ่งช่วยบำรุงผิวหนังและขนให้แข็งแรง
การดูแลขนสุนัขพันธุ์เล็กและพันธุ์ใหญ่แม้จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ “ความใส่ใจ” การดูแลที่สม่ำเสมอไม่เพียงช่วยให้น้องหมาดูดี แต่ยังป้องกันโรคผิวหนังและเพิ่มคุณภาพชีวิตได้อย่างมาก หากเจ้าของไม่มีเวลา หรืออยากให้มั่นใจว่าน้องหมาได้รับการดูแลจากมืออาชีพ การพามาที่ ร้านหมาสบาย เชียงใหม่ จะช่วยให้น้องหมาของคุณสะอาด สุขภาพดี และมีความสุขมากที่สุด